วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ดราฟและปรับปรุงโครงสร้าง FONT CRU-Lanchand

  เพิ่มเติมจากการดราฟ Font CRU-Lanchandเเต่งโครงสร้างมา 5 แบบ พร้อมใส่ชื่อ-นามสกุลพร้อมรหัสนักศึกษา

แบบดั้งเดิม

แบบที่ 1

แบบที่ 2

แบบที่ 3

แบบที่ 4

แบบที่ 5






วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ดราฟโครงสร้างของชุดตัวอักษร

ดราฟโครงสร้างของชุดตัวอักษร


งานที่ได้รับมอบหมาย

ดราฟโครงสร้างของชุดตัวอักษร A-Z



วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรุปการเรียนการสอนสัปดาห์ที่ 3 วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

19/11/2013

     อาจารย์ได้พูดถึงการสร้าง Drive อย่างถูกต้อง ต้องใช้ชื่อภาษาอังกฤษในการตั้งชื่อ นำหน้าด้วยรหัสวิชา ตามด้วยชื่อตัวเอง และ ชื่องาน และยังได้พูดถึงการจัดเก็บงานเข้าในแฟ้ม โดยการลากและดึงแฟ้มข้อมูลใส่ในแฟ้มที่เราต้องการ และยังได้พูดถึงการแปลข่าว ให้แปลใส่ลงในแฟ้มที่มีชื่อว่า New Translation ก่อนไม่อย่างนั้นจะไม่อนุญาติให้นำเสนอ

     อาจารย์ได้อธิบายความหมายของ Font กับ Typeface เป็นตัวเดียวกัน คำว่า Font คือตัวพิมพ์ หรือ ชุดแบบอักษร  แบบตัวอักษรมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ 1.ตัวอักษรแบบมีหัว 2.ตัวอักษรแบบไม่มีหัว


งานที่ได้รับมอบหมาย

จับกลุ่มและตั้งชื่อกลุ่ม ออกแบบโลโก้กลุ่ม งาน Gift On The Moon.ทำสินค้าที่เกิดจาก Font หรือใช้
Font ในการออกแบบมี Font เป็นส่วนประกอบหลัก และ สร้างเว็บ Blog ของกลุ่มขึ้นมาส่งความคืบหน้า
ทุกสัปดาห์

ออกแบบฟอร์น " ก ชวนอวดอักษรไทยให้ปรากฏจริง Hamburgefonstiv "

การออกแบบฟอร์น "  ก ชวนอวดอักษรไทยปรากฏจริง  Hamburgefonstiv " ตามที่ได้รับมอบหมายเป็นการบ้าน ในวันที่ 12/11/2556



























ส่งผลงานการออกแบบฟอร์น "  ก ชวนอวดอักษรไทยปรากฏจริง  Hamburgefonstiv "

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรุปการเรียนการสอนสัปดาห์ที่ 2 วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

12/11/2013

อาจารย์ ได้พูดถึงเรื่องการประเมินแบบสอบถามที่ให้ทำในอาทิตย์ก่อน ดูสัดส่วนการการเมิน สัดส่วนนักศึกษาที่ทำการประเมิน และดูการจัดองค์ประกอบของเว็บ และยังได้พูดเกี่ยวกับการทำเว็บ ให้น่าสนใจ ดึงดูด สวยงาม และน่าเชื่อถือ อธิบายเกี่ยวกับการตั้งค่า เว็บของเรา


งานที่ได้รับมอบหมาย

ออกแบบตัวอักษรคำว่า " ก ชวนอวดอักษรไทยให้ปรากฏจริง Hamburgefonstiv " ทำในขนาด A3

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรุปการเรียนการสอนสัปดาห์ที่ 1 วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

5/11/2013

     เป็นการเรียนวันแรกของรายวิชา ARTD 2304 การออกแบบตัวอักษรเพื่อการพิมพ์ Typography Design อาจารย์ ได้อธิบายเกี่ยวกับ รายวิชา 
           
งานที่ได้รับมอบหมาย

     สมัคร G-mail โดยต้องติดตามงานจาก google+ ติดตามจากเมล์อาจารย์ prachid2009@gmail.com  และสมัครบล๊อกส่วนตัวของ blockspot โดยใช้ชื่อ ARTD2304-panthep.blogspot.com ทำแบบสอบถามฉบับ
ที่ 1กรอกข้อมูลส่วนตัวอีเมล์ของ gmail.com เท่านั้น แจ้งเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว ในแบบบันทึกกิจกรรมการเรียนการสอน

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Font

 Font เป็นกลุ่มของตัวอักษรข้อมูลที่พิมพ์ได้ หรือแสดงผลได้ที่กำหนดแบบและขนาด ประเภทการออกแบบสำหรับชุด font คือ typeface และการแปรผันของการออกเพื่อสร้างเป็น typeface family เช่น Helvetica เป็น typeface family, Helvetica italic เป็น typeface และ Helvetica italic 10-piont คือ font ในทางปฏิบัติ font และ typeface ใช้โดยไม่เน้นความแม่นยำ outline font เป็น ซอฟต์แวร์ typeface ที่สามารถสร้างช่วงขนาดของฟอนต์ bitmap font เป็นการนำเสนอแบบดิจิตอลของฟอนต์ที่มีขนาดตายตัว หรือจำกัดกลุ่มของขนาด ซอฟต์แวร์ outline font ที่นิยมมาก 2 โปรแกรมปัจจุบัน คือ true type และ adobe's type 1โดยฟอนต์ true type มากับระบบการ Windows และ Macintosh ส่วน type 1 เป็นมาตรฐาน outline font (ISO 9541) ทั้งฟอนต์ true type และ type 1 สามารถใช้กับเครื่องพิมพ์ adobe's postscript (ถึงแม้ว่า) adobe พูดว่าฟอนต์ type 1 สามารถใช้ได้เต็มที่กับภาษา post script
ที่มา : widebase.net
http://www.com5dow.com/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C-it/995-font-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html



ความแตกต่างของไทป์เฟซกับฟอนต์
บุคคลทั่วไปมักใช้คำว่า ฟอนต์ (font/fount) เรียกแทนไทป์เฟซ หรือใช้เรียกสลับกัน แต่ในความจริงแล้วมีความหมายที่แตกต่างกัน ไทป์เฟซหมายถึงชุดตัวอักษรที่มีรูปแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่เล็กเท่าไร เช่น Arial, Arial Bold, Arial Italic และ Arial Bold Italic ต่างเป็นไทป์เฟซคนละชนิดกัน ส่วนฟอนต์จะหมายถึงชุดตัวอักษรที่มีทั้งไทป์เฟซและขนาดเดียวกัน ตัวอย่างเช่น Arial 12 พอยต์ก็เป็นฟอนต์หนึ่ง Arial 14 พอยต์ก็เป็นฟอนต์หนึ่ง Arial Bold 14 พอยต์ก็เป็นอีกฟอนต์หนึ่ง เป็นต้น ในการสร้างเอกสารแบบดิจิทัล ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนขนาดฟอนต์ได้เองในคอมพิวเตอร์ ทำให้ความแตกต่างของไทป์เฟซกับฟอนต์จึงลดความสำคัญลงไป
สำหรับตระกูลหรือสกุลของตัวอักษร (font/type family) มีความหมายกว้างกว่าไทป์เฟซ กล่าวคือ แบบตัวอักษรชื่อเดียวกันที่อาจมีรูปแบบต่างๆ กัน ถือเป็นแบบอักษรตระกูลเดียวกัน โดยปกติจะมี 4 รูปแบบคือ roman, italic, bold, bold italic แบบอักษรบางตระกูลอาจมี narrow, condensed หรือ black อยู่ด้วยก็ได้ ดังนั้น Arial, Arial Bold, Arial Italic และ Arial Bold Italic ทั้งหมดเป็นแบบอักษรในตระกูล Arial ในขณะที่ Helvetica หรือ Courier ก็เป็นอีกตระกูลหนึ่ง

ลักษณะทั่วไป

เชิงอักษร

Serif and sans-serif 02.svgแบบอักษรมีเชิง (เซริฟ)
Serif and sans-serif 01.svgแบบอักษรไม่มีเชิง (ซานส์เซริฟ)
Serif and sans-serif 03.svg"เชิง" คือส่วนที่เน้นสีแดง
ไทป์เฟซสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ แบบมีเชิง (serif) และแบบไม่มีเชิง (sans serif)
แบบเซริฟคือแบบอักษรที่มีขีดเล็กๆ อยู่ที่ปลายอักษรเรียกว่า เซริฟ ดังที่ปรากฏในตัวอักษรตระกูล Times แบบอักษรชนิดนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแบบโรมัน (roman) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากอักษรที่จารึกไว้ในหินของอาณาจักรโรมัน เซริฟมีส่วนช่วยในการกวาดสายตาไปตามตัวอักษร ทำให้อ่านง่าย และนิยมใช้สำหรับพิมพ์เนื้อความ
ส่วนแบบซานส์เซริฟก็มีความหมายตรงข้ามกันคือไม่มีขีดที่ปลายอักษร และมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าแบบกอทิก (gothic) อักษรชนิดนี้ไม่เหมาะกับการเป็นเนื้อความ แต่เหมาะสำหรับใช้พาดหัวหรือหัวเรื่องที่เป็นจุดเด่นซึ่งมองเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม ฟอนต์สมัยใหม่ที่ได้รับการออกแบบในคอมพิวเตอร์ อาจมีทั้งแบบเซริฟและซานส์เซริฟปะปนกันในฟอนต์หนึ่งๆ

ความกว้างอักษร

Propvsmono.svg
หากจะแบ่งประเภทตามความกว้างของอักษร สามารถแบ่งได้สองแบบคือ แบบกว้างตามสัดส่วน (proportional) และแบบกว้างขนาดเดียว (monospaced)
ผู้คนส่วนมากนิยมไทป์เฟซแบบกว้างตามสัดส่วน ซึ่งความกว้างอักษรจะแปรผันไปตามความกว้างจริงของรูปอักขระ เนื่องจากดูเหมาะสมและอ่านง่าย แบบอักษรประเภทนี้พบได้ทั่วไปตามสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมไปถึง GUI ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (อาทิโปรแกรมประมวลคำหรือเว็บเบราว์เซอร์) แต่ถึงกระนั้น รูปอักขระที่ใช้แทนตัวเลขในหลายไทป์เฟซมักออกแบบให้มีความกว้างเท่ากันหมด เพื่อให้สามารถจัดเรียงได้ตรงตามคอลัมน์
ส่วนไทป์เฟซแบบกว้างขนาดเดียวเป็นการออกแบบที่มีจุดประสงค์เฉพาะ มีความกว้างอักษรเท่ากันหมดไม่ขึ้นอยู่กับรูปอักขระ คล้ายอักษรที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ดีดซึ่งมีคอลัมน์ของตัวอักษรตรงกันเสมอ แบบอักษรชนิดนี้มีที่ใช้ในระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์บางชนิดเช่น DOSUnix และเป็นที่นิยมในหมู่โปรแกรมเมอร์สำหรับแก้ไขซอร์สโคด ศิลปะแอสกี (ASCII Art) เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้อักษรแบบกว้างขนาดเดียวเพื่อการแสดงผลที่สมบูรณ์
ถ้าหากพิมพ์ตัวอักษรสองบรรทัดด้วยจำนวนอักษรที่เท่ากันในแต่ละบรรทัด ไทป์เฟซแบบกว้างขนาดเดียวเราจะเห็นความกว้างทั้งสองบรรทัดเท่ากัน ในขณะที่แบบกว้างตามสัดส่วนจะกว้างไม่เท่ากัน และอาจไม่กว้างเท่าเดิมเมื่อเปลี่ยนไทป์เฟซ เนื่องจากรูปอักขระกว้างเช่น W, Q, Z, M, D, O, H, U ใช้เนื้อที่มากกว่า และรูปอักขระแคบเช่น i, t, l, 1 ใช้เนื้อที่น้อยกว่าความกว้างเฉลี่ยของอักษรอื่นในไทป์เฟซนั้นๆ

การวัดขนาดฟอนต์

เส้นสมมติกำกับฟอนต์
ขนาดของไทป์เฟซและฟอนต์ในงานพิมพ์ โดยปกติจะวัดในหน่วย พอยต์ (point) ซึ่งหน่วยนี้ได้กำหนดขนาดไว้แตกต่างกันในหลายยุคหลายสมัย แต่หน่วยพอยต์ที่แท้จริงนั้นมีขนาดเท่ากับ 172 นิ้ว สำหรับการออกแบบอักษร จะวัดด้วยหน่วย เอ็ม-สแควร์(em-square) เป็นหน่วยที่สัมพันธ์กับฟอนต์ขนาดนั้นๆ โดยหมายถึงความสูงที่สูงกว่าเล็กน้อยตั้งแต่ยอดปลายหางอักษรที่ชี้ขึ้นบน ลงไปถึงสุดปลายหางอักษรที่ชี้ลงล่างของฟอนต์นั้นๆ เอง ซึ่งเท่ากับความสูงของตัวพิมพ์ในงานพิมพ์ หรืออาจสามารถวัดได้ในหน่วยมิลลิเมตร คิว (¼ ของมิลลิเมตร) ไพคา (12 พอยต์) หรือเป็นนิ้วก็ได้

ความสูง 1 em คือความสูงของตัวพิมพ์ ดังนั้น em dash จึงหมายถึงอักขระขีดที่ยาวกินเนื้อที่ 1 em อยู่ที่มุมล่างขวาของภาพ
ตัวอักษรส่วนมากใช้เส้นบรรทัดหรือเส้นฐานเดียวกัน (baseline) ซึ่งหมายถึงเส้นตรงแนวนอนสมมติที่ตัวอักษรวางอยู่ในแนวเดียวกัน รูปอักขระของอักษรบางตัวอาจกินเนื้อที่สูงหรือต่ำกว่าเส้นฐาน (เช่น d กับ p) เส้นตรงสมมติที่ปลายหางของอักษรชี้ขึ้นบนและลงล่าง เรียกว่าเส้นชานบน (ascent) และเส้นชานล่าง (descent) ตามลำดับ ระดับของเส้นทั้งสองอาจรวมหรือไม่รวมเครื่องหมายเสริมอักษรก็ได้ ขนาดของฟอนต์ทั้งหมดจะวัดระยะตั้งแต่เส้นชานบนถึงเส้นชานล่าง นอกจากนั้นยังมีเส้นสมมติกำกับความสูงสำหรับอักษรตัวใหญ่กับอักษรตัวเล็ก ความสูงของอักษรตัวเล็กจะวัดจากความสูงของอักษร "x" ตัวเล็ก (x-height) ถ้าเป็นฟอนต์ภาษาไทยให้วัดจากอักษร "บ" ส่วนความสูงของอักษรตัวใหญ่ (cap height) ปกติจะวัดจากเส้นที่อยู่เท่ากับหรือต่ำกว่าเส้นชานบนเล็กน้อยถึงเส้นฐาน อัตราส่วนระหว่างความสูงอักษร x กับเส้นชานบนหรือความสูงอักษรตัวใหญ่มักถูกใช้สำหรับการจำแนกลักษณะของไทป์เฟซ


ที่มา

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%8B